วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2552

องค์กรอัจฉริยะ ยุคการจัดการความรู้

องค์กรอัจฉริยะ ยุคการจัดการความรู้
ที่มา : คอลัมน์ HR Cornerโดย ศ.น.พ.วิจารณ์ พานิช สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.)ในยุค
"หลังข้อมูลข่าวสาร" (post - information era) ความหมายของคำว่า "อัจฉริยะ" จะต้องเปลี่ยนไป จากความหมายว่า "มีความรู้ความสามารถเกินระดับปกติ" ไปสู่ความหมายว่า "มีความสามารถในการเรียนรู้ สร้าง และใช้ความรู้เกินระดับปกติ"องค์กรอัจฉริยะในยุคปัจจุบันไม่ใช่องค์กร ที่มีความรู้ (knowledge - based organization) เท่านั้น แต่จะต้องเป็นองค์กรที่สร้างความรู้ใหม่ขึ้นมาทดแทน หรือล้มล้างความรู้เก่า และใช้ความรู้ใหม่นั้นในการดำเนินกิจการที่มีชัย เหนือคู่แข่ง
องค์กรอัจฉริยะไม่ใช่แค่องค์กรที่มีความรู้ แต่จะต้องเป็นองค์กรที่สร้างความรู้ (knowledge - creating organization) และใช้ความรู้ที่สร้างขึ้นใหม่นั้น ในการเพิ่มคุณค่าและมูลค่า (value - add) ให้แก่องค์กรองค์กรอัจฉริยะจะต้องไม่หยุดอยู่แค่ความสามารถในการสร้างและใช้ความรู้ แต่จะต้องมีความสามารถในการสร้างความรู้และใช้ความรู้โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด และมีอัตราความเร็ว (speed) สูงที่สุด ซึ่งหมายความว่า กระบวนการ "สร้าง" และ "ปรุง" ความรู้ให้ "พร้อมใช้" นั้น จะต้องไม่เริ่มจากศูนย์องค์กร จะต้องมีความสามารถในการ "หยิบฉวย" หรือ "ดูดซับ" ความรู้ที่ต้องการมาจากภายในองค์กรและภายนอกองค์กร เอามาปรับเล็ก ปรับน้อยเพื่อทดลองใช้ตามบริบทของ องค์กร
ความเป็น "อัจฉริยะ" อยู่ตรงนี้แหละ อยู่ที่การลงทุนน้อยแต่ได้ผลมากและรวดเร็ว และเมื่อคู่แข่งรู้ตัวและไล่ตาม องค์กรอัจฉริยะก็ก้าวไปอีกหลายขั้นแล้ว
ในการนำเอาความรู้ใหม่มาขยับวงจรเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพขององค์กรนอกจากลงทุนน้อยได้ผลมากและรวดเร็วแล้ว ยังพัฒนาต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง โดยมีระบบดูดซับ ปรับแต่ง ประยุกต์ใช้ และยกระดับความรู้ ที่หมุนเป็นเสมือนเกลียวที่ยก ระดับขึ้นเรื่อยไป ที่เรียกว่า เกลียวความรู้ (knowledge spiral) ความเป็นอัจฉริยะไม่ได้อยู่ที่ความรู้ (knowledge) แต่อยู่ที่เกลียวความรู้ (knowledge spiral) ไม่ได้อยู่ที่องค์ความรู้ (body of knowledge) แต่อยู่ที่การประยุกต์ใช้ความรู้ (application of knowledge) และการยกระดับความรู้ (leverage of knowledge) องค์กรที่ดำเนินการตามแนวทางข้างต้นด้วยความยากลำบาก ต้องออกแรงมาก ใช้ทรัพยากรมาก เกิดความขัดแย้งมาก เกิดความทุกข์มาก ไม่ใช่องค์กรอัจฉริยะองค์กรอัจฉริยะคือองค์กรที่ดำเนินการตามข้างต้นโดยแทบจะไม่ต้องออกแรง แทบจะไม่ต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้นเลย และมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุข ความชื่นชมยินดี ความคึกคัก ความเคารพเห็นคุณค่าซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิกขององค์กรองค์กรอัจฉริยะตามรูปแบบข้างต้น คือองค์กรที่ดำเนินการจัดการความรู้อย่างถูกต้อง ถูกแนวทาง เกิดการสนธิพลัง (Synergy) ระหว่างองค์ประกอบหลัก 4 องค์ประกอบของการจัดการความรู้ อันได้แก่ คน (people) กระบวนการ (process) เนื้อหาความรู้ (content) และเทคโนโลยี (technology) เมื่อองค์ประกอบหลังทั้ง 4 เกื้อกูลต่อ กันอย่างถูกต้อง โดยอาศัยตัวช่วย (enabler) ที่เหมาะสมต่อวัฒนธรรม และบริบทอื่นๆ ขององค์กร กระบวนการจัดการความรู้ก็จะไหลเลื่อน (flow) ไปเสมือนเป็นอัตโนมัติ แทบจะไม่ต้องใช้พลังงานในการขับเคลื่อน เพราะในกระบวนการไหลเลื่อนนั้นเองได้ปลดปล่อยพลังงานที่อยู่ภายในตัวบุคคล และที่อยู่ภายในความสัมพันธ์ ระหว่างตัวบุคคล ออกมาขับเคลื่อนการไหลเลื่อนนั้นสภาพเช่นนี้ดูเป็นนามธรรม ซึ่งเป็นความจริง โดยที่รูปธรรมที่สัมผัสได้ จะเกิดขึ้นเมื่อมีการลงมือปฏิบัติการจัดการความรู้ ไม่ทำไม่รู้องค์กรอัจฉริยะ ไม่ได้เกิดจากการส่งพนักงานไปเข้ารับการอบรมหรือการศึกษาต่อ แต่จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อพนักงานทั้งหมดพร้อมใจกันลงมือปฏิบัติปฏิบัติกระบวนการที่เรียกว่า การจัดการความรู้ทำอย่างไรจึงจะปฏิบัติการจัดการความรู้เป็นคำตอบคือต้องฝึกและหากต้องการเป็นองค์กรอัจฉริยะ ก็ต้องวางระบบการฝึกทั่วทั้งองค์กร ทุกระดับขององค์กรองค์กรอัจฉริยะ คือองค์กรที่ไหลลื่นไปกับการจัดการความรู้ทั่วทั้งองค์กร ในทุกระดับขององค์กรสนใจฝึกปฏิบัติในระดับองค์กร ศึกษาโอกาสที่ www.kmi.or.th